การเริ่มต้นใหม่

ตั้งแต่เดือน 1 เป็นต้นมา
มีโปรเจคที่ตั้งใจ หลังจากหาคำตอบและฟังเสียงจากหัวใจมานาน
จนมั่นใจว่านี่คือสิ่งที่อยากทำ อยากลอง 
เพื่อให้บรรลุเป้าหมายอีก 1 อย่างในชีวิต ที่ถ้าไม่ได้ทำแล้วจะต้องเสียใจแน่ๆ

วันนี้...เข้ากลางเดือน 2 แล้ว ซึ่งเท่ากับว่าผ่านมาเดือนครึ่งแล้ว
ทุกอย่างเดินได้ค่อยข้างช้า ส่วนหนึ่งมาจากความเฉื่อยของตัวเอง
อีกส่วนหนึ่งก็เป็นอุปสรรคจากภายนอก ซึ่งหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่ก็ยังไม่ถือว่าเป็นปัญหาใหญ่

แต่ก็ยังดีใจที่หลายอย่างก็ยังคืบหน้าบ้างพอสมควร 
และคิดว่า ภายในปลายเดือน น่าจะมีบางอย่างที่เป็นรูปเป็นร่าง

ขณะที่กำลังเดิน...ความกังวล สับสนและลังเลใจ มีแทรกระหว่างทางเป็นระยะ
คิดถูกไหม(วะ) หาเรื่องไหม จะดีเหรอ
แต่พยามนึกถึงโอกาสและเวลาที่เคยพลาดไป 
กับการที่ไม่ได้ทำ ไม่กล้าทำในสิ่งที่อยากทำ ในช่วงที่ผ่านมา
จนเวลาล่วงเลยมาพอสมควร

และในเมื่อเลือกแล้ว และเริ่มเดินมาแล้ว 
ก็คงมีทางเดียวคือเดินต่อไป จนกว่าจะไม่ไหวหรือถึงทางตันสุดๆ จริงๆ




(มุยเน่ เวียดนาม ปี 2013 ถ่ายโดยข้าพเจ้าเอง)



คำพูดที่ผุดขึ้นมาปลอบใจตัวเองตอนนี้คือ ทำก่อน ท้อทีหลัง 
คือยังไม่ได้เจอปัญหาหนักเลย แล้วจะท้อทำไม(ล่ะวะ)

ถ้าค่อยๆ เดินไปอย่างน้อยมันก็ยังได้ระยะบ้าง
ถ้าหยุดแล้วนั่งท้อ ก็คงจะไม่ได้ระยะซักก้าวเดียว

เช่นเดียวกับชื่อหนังสือเล่มหนึ่ง ในสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ซึ่งจะขออัญเชิญมาเป็นกำลังใจให้กับตัวเองดังนี้


 “ถ้าเดินเรื่อยไป ย่อมถึงปลายทาง” 











หมายเหตุ : บันทึกไว้เตือนใจตัวเองถึงความรู้สึก ณ ปัจจุบัน 

Comments