ฮ่าๆ
กลับมาแว้วว
ป่าว..
งานยังไม่เสร็จหรอก...
ก็บอกแล้วว่ามันเป็นข้ออ้าง
คราวนี้หนีงานมา..
ก็คราวก่อนหนีไปทำงาน
เหนื่อยแล้ว หนีมาเขียนไรหนุกๆดีกว่า อิ อิ
.................................
อ่ะ ต่อๆ จากตอนที่แล้ว
ถึงไหนนะ?
อ่อ
บอกว่าจะพาชมวัดใช่ปะ
ก็คงจะเป็นบรรยากาศแค่บางส่วนอ่ะ
เอามาให้ดูหมดคงไม่ไหวค่ะ
เพราะมันเยอะมั่กมาก ถ่ายมาเยอะมาก เพราะไปหลายวัด
บางวัดจำชื่อเต็มไม่ได้ บางวัดก็ไม่รู้จักชื่อ บางวัดก็จำได้
ถ้ามีข้อผิดพลาด หรือมีกูรูท่านใดเห็นภาพแล้วทราบว่าเป็นวัดอะไรก็แจ้งมาให้ทราบได้นะคะ
จะขอบคุณมากๆเลย
วัดแรกที่ได้ไปเยือน หลังจากที่เราได้เข้าไปอาบน้ำชำระล้างความเหนอะหนะที่เกาะอยู่ตั้งแต่เมื่อเช้าวาน(เพราะไม่มีเวลาอาบหรอกย่ะ ไม่ได้ตั้งใจจะซกมก) ที่โรงแรมที่พักของเรา หลังจากโซ้ยอาหารเช้าอย่างอิ่มหนำแล้ว ก็คือ
..วัดพระแก้ว...
อยู่บนถนนไตรรัตน์ เป็นวัดที่ค้นพบพระแก้วมรกต หรือพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากรที่ประดิษฐานอยู่ ณ วัดพระแก้ว กรุงเทพฯ ในปัจจุบัน ตามประวัติเล่าว่าเมื่อปี พ.ศ. 1897 ในสมัยพระเจ้าสามฝั่งแกนเป็นเจ้าเมืองครองเชียงใหม่นั้น ฟ้าได้ผ่าเจดีย์ร้างองค์หนึ่ง และได้พบพระพุทธรูปลงรักปิดทองอยู่ภายในเจดีย์ ต่อมารักกะเทาะออกจึงได้พบว่าเป็นพระพุทธรูปสีเขียวที่สร้างด้วยหยก คือพระแก้วมรกตนั่นเอง ปัจจุบันวัดพระแก้วเชียงรายเป็นที่ประดิษฐานพระหยก ซึ่งสร้างขึ้นใหม่ในวาระที่สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี มีพระชนมายุ ครบ 90 พรรษา(ข้อมูลจากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยค่ะ)
พระเจดีย์สีทองอร่าม
ที่ประดิษฐานพระแก้วมรกต
ที่เห็นส่วนผนังเป็นสีส้มๆ นั่น ขอบอกค่ะว่าเป็นไม้สักล้วนๆ รวมไปถึงโครงสร้างภายในอาคารด้วย ซึ่งเป็นจุดเด่นของวัดวาทางเหนือที่เก่าแก่ค่ะ หาดูยากและเป็นเสน่ห์เมืองเหนือจริงๆ วัดที่สร้างช่วงหลังๆจะใช้ปูนกันแล้วค่ะ เพราะอะไรคงทราบกันดี
องค์พระแก้วมรกต
พระพุทธรูปประจำวัดอีกองค์ ประดิษฐานอยู่ที่พระอุโบสถด้านหน้าที่อยู่ในรูปแรก
อาคารแสงแก้ว สร้างด้วยไม้สักทั้งหลังสูงสง่าน่าเกรงขาม
เพราะเราต้องไปกันหลายที่เลยเข้าไปสักการะที่ละไม่นานนัก เลยมีเวลาศึกษาข้อมูลและชื่นชมความงามไม่มากเสียดายจัง
แต่เห็นรูปแล้วเพื่อนๆคงจะรู้ว่าวัดแห่งนี้งามเกินคำบรรยายใช่มั้ยคะ
เป็นไงกันมั่งล่ะ นี่แค่วัดแรกนะ
ยังมีต่ออีกหลายแห่งเลยหล่ะ
ติดตามตอนต่อไปนะคะ
กลับมาแว้วว
ป่าว..
งานยังไม่เสร็จหรอก...
ก็บอกแล้วว่ามันเป็นข้ออ้าง
คราวนี้หนีงานมา..
ก็คราวก่อนหนีไปทำงาน
เหนื่อยแล้ว หนีมาเขียนไรหนุกๆดีกว่า อิ อิ
.................................
อ่ะ ต่อๆ จากตอนที่แล้ว
ถึงไหนนะ?
อ่อ
บอกว่าจะพาชมวัดใช่ปะ
ก็คงจะเป็นบรรยากาศแค่บางส่วนอ่ะ
เอามาให้ดูหมดคงไม่ไหวค่ะ
เพราะมันเยอะมั่กมาก ถ่ายมาเยอะมาก เพราะไปหลายวัด
บางวัดจำชื่อเต็มไม่ได้ บางวัดก็ไม่รู้จักชื่อ บางวัดก็จำได้
ถ้ามีข้อผิดพลาด หรือมีกูรูท่านใดเห็นภาพแล้วทราบว่าเป็นวัดอะไรก็แจ้งมาให้ทราบได้นะคะ
จะขอบคุณมากๆเลย
วัดแรกที่ได้ไปเยือน หลังจากที่เราได้เข้าไปอาบน้ำชำระล้างความเหนอะหนะที่เกาะอยู่ตั้งแต่เมื่อเช้าวาน(เพราะไม่มีเวลาอาบหรอกย่ะ ไม่ได้ตั้งใจจะซกมก) ที่โรงแรมที่พักของเรา หลังจากโซ้ยอาหารเช้าอย่างอิ่มหนำแล้ว ก็คือ
..วัดพระแก้ว...
อยู่บนถนนไตรรัตน์ เป็นวัดที่ค้นพบพระแก้วมรกต หรือพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากรที่ประดิษฐานอยู่ ณ วัดพระแก้ว กรุงเทพฯ ในปัจจุบัน ตามประวัติเล่าว่าเมื่อปี พ.ศ. 1897 ในสมัยพระเจ้าสามฝั่งแกนเป็นเจ้าเมืองครองเชียงใหม่นั้น ฟ้าได้ผ่าเจดีย์ร้างองค์หนึ่ง และได้พบพระพุทธรูปลงรักปิดทองอยู่ภายในเจดีย์ ต่อมารักกะเทาะออกจึงได้พบว่าเป็นพระพุทธรูปสีเขียวที่สร้างด้วยหยก คือพระแก้วมรกตนั่นเอง ปัจจุบันวัดพระแก้วเชียงรายเป็นที่ประดิษฐานพระหยก ซึ่งสร้างขึ้นใหม่ในวาระที่สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี มีพระชนมายุ ครบ 90 พรรษา(ข้อมูลจากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยค่ะ)
พระเจดีย์สีทองอร่าม
ที่ประดิษฐานพระแก้วมรกต
ที่เห็นส่วนผนังเป็นสีส้มๆ นั่น ขอบอกค่ะว่าเป็นไม้สักล้วนๆ รวมไปถึงโครงสร้างภายในอาคารด้วย ซึ่งเป็นจุดเด่นของวัดวาทางเหนือที่เก่าแก่ค่ะ หาดูยากและเป็นเสน่ห์เมืองเหนือจริงๆ วัดที่สร้างช่วงหลังๆจะใช้ปูนกันแล้วค่ะ เพราะอะไรคงทราบกันดี
องค์พระแก้วมรกต
พระพุทธรูปประจำวัดอีกองค์ ประดิษฐานอยู่ที่พระอุโบสถด้านหน้าที่อยู่ในรูปแรก
อาคารแสงแก้ว สร้างด้วยไม้สักทั้งหลังสูงสง่าน่าเกรงขาม
เพราะเราต้องไปกันหลายที่เลยเข้าไปสักการะที่ละไม่นานนัก เลยมีเวลาศึกษาข้อมูลและชื่นชมความงามไม่มากเสียดายจัง
แต่เห็นรูปแล้วเพื่อนๆคงจะรู้ว่าวัดแห่งนี้งามเกินคำบรรยายใช่มั้ยคะ
เป็นไงกันมั่งล่ะ นี่แค่วัดแรกนะ
ยังมีต่ออีกหลายแห่งเลยหล่ะ
ติดตามตอนต่อไปนะคะ
Comments