>> สิ่งใดเกิดขึ้นแล้ว..ย่อมมีครั้งต่อไปเสมอ

วันก่อนอยู่บ้านคนเดียว
สุขจริงหนอ
ตื่นมาจะลงมาเล่นเน็ต..แต่หิวข้าว
เปิดตู้เย็น ดูซิมีอะไรกินมั่ง

ว้า..ว่างเปล่า
ไปตลาดหน้าหมู่บ้านดีกว่า
เปลี่ยนชุดนิดนึง
เอากระโปรงก็ได้ ใส่ง่ายดี
เอาเป๋าตังค์ไปด้วย..โทรศัพท์
อืมม ครบละ
คว้ากุญแจรถ
เปิดประตูบ้าน
ใส่รองเท้า
ปิดประตูบ้าน กดล็อค
เปิดรถ วางกระเป๋า
เดินไปจะเปิดประตูรั้ว
...
...
...
กุญแจ
กุญแจ
กุญแจบ้านล่ะ
...
...
...

ซวยแล้ววว(o___0)
...
...
...
ทำไง ทำไงดี

เดินวนรอบบ้าน
จะเข้ารูไหนได้เนี่ย
ปิดหมดทุกบาน

กลับมาตั้งหลักที่ประตูเจ้ากรรม
เคยเห็นเค้าเอากิ๊บมาแหย่ๆ
ไปค้นในรถ อ่ะฮ้า
เจอกิ๊บอันนึง
กางออก
แหย่ๆ
แหย่ๆ
แหย่ๆ..ค็อกแค็กๆๆ (เสียงอีกมือหมุนลูกบิดไปด้วย)
...
...
...
หลายนาทีผ่านไป
ค็อกแค็กๆๆๆ
แกร็ก...
...
...
...
ยัง
ยังไขไม่ออก
แต่เหงือเริ่มออก
หยิบโทรศัพท์ในรถกดหาเพื่อน
เพื่อนแนะนำอีกหลายวิธี
ลองหมด
แต่ก็ยังเหมือนเดิม
...
...
...
เหลือทางเดียว
ไปเอากุญแจที่พี่มาไข
แต่ตอนนี้พี่อยู่ลุมพินี
แล้วจะออกไปยังไง
มองไปที่รั้ว
สูงพอๆกะตัวเรา
พอปีนได้มั้ง(?)
ก้มมองตัวเอง
ใส่กระโปรง
(-_-' )
...ไม่น่าเล้ยยย...
...
...
...
คิด คิด คิด
เอาของออกมาจากรถ
เอาวะ


มองซ้ายมองขวา
อุ๊ย..มีคนมา
ทำเป็นดูต้นไม้

มองขวามองซ้าย
ได้ยินเสียงข้างบ้านคุยกัน
รอ รอ
คิด คิด
...
...
...
ไม่เอาละ
ปีนเลยดีกว่า
หน้าด้านหน่อย
นี่บ้านเราเองนะ
ไม่ผิดๆ
แว๊บเดียวมองไม่ทันหรอก

เล็งมุมก่อน
กันโป๊
หนึ่ง ส่อง ซั่ม
ฮึ๊บๆๆ
ตุ๊บ(เสียงเท้ากระแทกพื้น ไม่ใช่ก้นนะ)
...
...
...
รอดแล้ววว
เดินออกไปหน้าหมู่บ้าน
แฮ่กๆๆๆ
ไกล
เรียกแท็กซี่
ไปหาพี่
โทรบอกพี่
ขึ้นทางด่วน
หิว หิว
ถึงแล้ว
ค่าแท็กซี่ สองร้อยกว่าๆ
ทำไมฉานต้องเสียตังค์สองร้อยด้วย(?)
ตอนแรกแค่จะไปซื้อข้าวที่ตลาดยี่สิบบาท

เจอพี่
พี่ให้กุญแจ
บอกเอาไปทั้งพวงเลย
หาข้าวกิน
กลับบ้าน
...
...
...
กลับมาถึง
เลยเที่ยงแล้ว
ค่อยยังชั่ว
พักนิดนึง
เปลี่ยนชุด
ล้างหน้า
เล่นเน็ตดีกว่า
เสียบปลั๊ก
เปิดโน๊ตบุ๊คพี่
ยืมเล่นก่อนนะ
กดปุ่ม power
ไฟกระพริบแผ่วๆ
แล้ว
วูบ
ดับ

???

เอ๋(?)
เกิดไรขึ้น
ปลั๊กหลวมป่าว
ขยับปลั๊ก
ลองใหม่
วูบ
เหมือนเดิม
ดับ

อุวะ
อะไรกันนี่ชีวิต
โทรถามเพื่อน
เพื่อนบอก เจ๊งน่ะสิ
ทำไมวันนี้ซวยหลายครั้ง
เพื่อนบอก สิ่งใดเกิดขึ้นแล้ว..ย่อมมีครั้งต่อไปเสมอ
เหรอ
แล้วจะมีครั้งที่สามมั้ยอ่ะ
เพื่อนบอก มีสิทธิ์นะ
เพื่อนหัวเราะ(เยาะ)
ชิ ไม่คุยละ
วางดีกว่า
ไม่ช่วยให้รู้สึกดีขึ้นเลย

ทำใจเล็กน้อย
กดโทรศัพท์หาพี่
พี่โจ้
คอมเจ๊ง
ไม่รู้เป็นไร
(>___<)จะโดนด่ามั้ยเนี่ย
อืม เหรอ
ไม่เป็นไร
เดี๋ยวพี่กลับไปดูให้
(^ o ^)เฮ้อโล่งอก ไม่โดนด่า

อาบน้ำ ล้างซวยดีกว่า

.......................................................................................

ภาคต่อมา
๑.โน๊ตบุ๊คไม่เสีย ที่เสียคือหม้อแปลง และยังอยู่ในประกัน
๒. อาบน้ำแล้วไม่มีเหตุการณ์ร้ายแรงใดๆเกิดขึ้นอีกนอกจากโดนแม่บ่นนิดหน่อย
๓. สอนให้รู้ว่าจงมีสติๆๆๆๆ แล้วจะไม่เสียสตางค์












Comments

Anonymous said…
เขาว่าในโลกนี้มีคน 2 ประเภทที่ ขี้ลืม และ ขี้บ่น

1. คนแก่

2.ผู้หญิง

แจงเหลว..เอาไป 2 ตำแหน่งเลย ไม่น้อยหน้าใคร


เออแปลกใจ แจงเหลว แปลว่าไร

แจงอาจจะเป็นชื่อ ดญ. แจง

แต่เหลว นี่เป็นคุณสมบัติพวกน้ำ หรือ ไม่ก็ของที่อ่อนตัวจากแข็งเป็นเหลว เมื่อการเวลาผ่านไป

เหลวไหล เหลวเป้ว เหลวไม่มีดี

วานบอกกล่าว
จุ๊บ said…
อ่าวว ซวยเลย
ถูกยกตำแหน่งผู้หญิงแก่ที่ขี้บ่นและขี้ลืมให้เหรอเนี่ย

แจงเหลว..(T-T) ฮือ อุตส่าห์ลืมไปแล้วนะเนี่ย
หมุ่ยมันเป็นตัวต้นคิดตั้งให้(ทั้งๆที่ไม่เต็มใจรับ)ตั้งแต่สมัยเรียน ฮือ
อุตส่าห์บอกมันแล้วว่าอย่าเอาอันนี้ไปตั้งเป็นลิงค์
เห็นมะ มีคนสงสัยจนได้ (=_=')

อยากรู้จิงเหรอท่านพี่ กลับมาไทยเมื่อไหร่แล้วจะบอกนะจ๊ะ อิอิ
Anonymous said…
อยากรู้แล้ว กว่าจะกลับไทยคงปีหน้า ปีนี้จะเก็บตังส์ ไปอลาสก้า หาก ไม่มีเหตุฉุกเฉนต้องใช้เงินมากมาย


แสดงว่ากว่าจะได้รู้ที่มาของคำว่า -แจงเหลว- ต้องรอปีหน้า???


ไม่เอาใจร้อน ไปถามไอ้หมุ่ยก็ได้ อิอออิ
จุ๊บ said…
(=_=')ไวจริงๆ สกัดไม่ทันเลย

หวังว่ามันคงไม่ตอบนะ เหอๆๆๆๆ

จะไปเที่ยวอลาสก้า น่าอิจฉาจัง
ไว้ถ่ายรูปสวยๆมาให้ดูมั่งนะคะ

ปล.เข้าไปดูแกลลอรี่ของพี่
สวยๆทั้งนั้นเลย
โดยเฉพาะที่ Yosemite
งามมั่กมาก
dogdoy said…
สุขสันต์วันเกิดครับอาจารย์ศิลป์.. อ้าวผิดงาน

เรื่องลืมๆนี่น่าจะเป็นกันทุกคนนะ เวลาทำอะไรเพลินๆนี่เสร็จทุกที (ใครไม่เคยลืมหาทางพบประสบการณ์นี้นะครับ เป็นประสบการณ์ที่ไม่มีีวันลืม)
เราก็เคยลืมกุญแจรถไว้ในรถ ตอนนั้นจำได้เลย ไปจองตั๋วดูคอนเสิร์ต เต๋า สมชาย จอดรถไว้สยามสแควร์ ไปจองตั๋วที่มาบุญครอง แบบว่าดีใจสุดๆได้ตั๋ว กลับมาที่รถกะจะเดินเล่นต่ออ้าว กุญแจไปไหนหน่ะ เอ๋.. อยู่ในรถ เสียบคาไว้เลย แบบว่ารีบจะไปจองตั๋วกลัวไม่ทัน นาฬืกาในรถยังติดอยู่เลย แบบว่ายังไม่ได้บิดออกมาเลยอ่ะ ตอนนั้นพยายามหลายทางเลย ไปตามคุณตำรวจมาช่วยแงะ ไม่สำเร็จ แต่ก็ได้รู้ว่ารถเราแงะยาก ปัจจุบันที่กระจกยังมีร่องรอยการงัดแงะของคุณตำรวจอยู่เลย สุดท้ายต้องโทรไปเรียกคุณยายเอากุญแจสำรองมาเปิด คุณยายก็แสนดีนั่งแท๊กซี่มาเลย
หลังจากนั้นเป็นต้นมาก็ไม่เคยล็อครถด้วย central lock ก่อนออกจากรถอีกเลย จะใช้กุญแจไขล็อคเอาหรือไม่ก็กด remote control เอา
ปัจจุบันหันมาขี่จักรยาน ล็อคยากขึ้นเยอะทำให้ไม่มีลืม อิอิ
จุ๊บ said…
โหะๆ มีเพื่อนแล้ววว
เรื่องลืมกุญแจในรถนี่ยังไม่เคย(และยังไม่อยากเคย)
แต่รู้สึกว่าตั๊กมันเคยอยู่ครั้งนึงเหมือนกัน
จำได้ว่าตอนเรียนมหา'ลัย เคยติดรถตั๊กไปเที่ยวสยามกัน 4 คน มีตั๊ก นก เราและเอ๋ วันที่มีเรียนครึ่งวัน
ก็กว่าจะหาที่จอดได้ก็นาน ได้ที่จอดตรงโซนๆ hardrock มั้งถ้าจำไม่ผิด
พอจอดเสร็จก็รีบลงไปหาไรกิน+ช๊อปกันถึงเย็นก็เดินกลับมาที่รถจะกลับบ้านกัน
ตั๊กมันหากุญแจไม่เจอ ยืนค้นๆๆ ในกระเป๋าอยู่ข้างรถตัวเองใหญ่เลย ล่กเลยตอนนั้น
พอหาไม่เจอก็เลยมามองๆที่รถตัวเอง แล้วก็ลองดึงประตู
ปรากฏว่าประตูเปิดได้อย่างง่ายด่าย
และกุญแจรถวางอยู่บนเบาะด้วย...(-___-')ล่อโจรจริงๆ
สรุปว่าลืมล็อครถ และยังลืมกุญแจไว้ในรถอีก...เฮ้อ
ดีนะที่รถไม่หาย
dogdoy said…
จอดแถวนั้นคงไม่ค่อยมีคนคิดจะขโมยรถเท่าไหร่มั๊ง
ถ้าไปจอดที่เปลี่ยวๆหน่อยนี่คงเสร็จโจร
นับว่ายังไม่ถึงคราวเคราะห์

เอ้อ แล้วตั๊กมันเป็นยังไงบ้างวะ ได้คุยกันบ้างมะ ชีวิตแต่งงานมันสนุกสนานดีหรือเปล่า
จุ๊บ said…
ได้ยินจากเอว่าตั๊กมีข่าวดีแล้ว แต่ถึง 3 เดือนหรือยัง..ไม่แน่ใจจ้า
ยังไม่ได้เจอเจ้าตัวเลย เดี๋ยวต้องเชิญให้มาเปิดแถลง อิ อิ