>> เพื่อน(โสด)สนิท

staff


ไม่ได้มีอะไรเกี่ยวกับหนังเรื่อง "เพื่อนนิท" เลยค่ะ
แต่เป็นเรื่องของแก็งค์ "เพื่อน(โสด)สนิท"ไปเที่ยวฉะเชิงเทรากันตะหาก =P

เรื่องมันเริ่มมาจากหน่อย ที่ไปเห็นรูปที่เพื่อนของหน่อย(อีกที)ไปเที่ยวตลาดบ้านใหม่ ที่ฉะเชิงเทรา
ก็เลยเกิดอาการอยากไปมั่ง
แล้ววันนึงบังเอิญมาออนไลน์เจอกัน
หน่อยก็เลยหลอกล่อให้เราไปด้วย

"ไปป่ะ สวยนะ น่าไปถ่ายรูป แล้วก็เป็นร้านแบบเก่าๆ ไปถ่ายรูป หาไรกิน แล้วมีวัดจีนอยู่ใกล้ๆ"
"เหรอ ไปไงอ่ะ แล้วไปเช้าเย็นกลับเหรอ "
"ก็ไปรถไฟ แต่ถ้าไม่อยากไปก็ไม่เป็นไรนะ"
"เฮ้ย ยังไม่ได้บอกเลยว่าไม่อยากไป แต่อยากรู้ว่าไปยังไง กี่วัน "
"ก็ไปวันอาทิตย์ "
"วันเดียวใช่มั้ย"
"อือ"
'งั้นก็ไปได้อยู่แล้วแหละ ก็ดี ไม่ได้เที่ยวนานแล้ว ใกล้ๆก็ยังดี"
"งั้นฝากชวนเพื่อนด้วยนะ เดี๋ยวเราดูเรื่องการเดินทางให้ "
"อ่าว เออๆก็ได้ "

เคยสงสัยว่าทำไมเวลาเพื่อนๆจะนัดกันหรือจะไปไหนต้องให้เราเป็นคนโทรชวนทู้กที(มานเปลืองค่าโทรรู้มั้ย?555)
โดยเฉพาะ ปอม อยู่นครสวรรค์ จะขึ้นมาทีไรต้องโทรมาบอกว่าฝากชวนเพื่อนด้วย ? ทำไมมานไม่ชวนเอง?
"ก็เธอมีเบอร์เพื่อนๆเยอะ แล้วส่วนใหญ่เวลาเธอชวนพวกมันก็จะมากัน "
เออๆๆๆ รู้น่ะว่าขี้เกียจพูดซ้ำๆ ใช่มั้ย โอเคๆๆ ไม่ต้องมาอ้างหรอก ไอ่พวกนี้นี่ 555

ก็เลยลองมานั่งนึกว่าใครที่มีเปอร์เซนต์ไปได้กันมั่ง
อ้าวว ก็พวกมีครอบครัวแล้วกับพวกที่งานยุ่งจัดๆ จะโทรไปทำไมให้เปลืองล่ะค้า
ดูแล้วก็มีราวๆ 3-4 คน ที่มีแวว

โอเค เริ่มจาก "ต้น" เหยื่อรายแรกก่อน
จริงๆแล้วช่วงนี้ต้นก็งานท่าทางจะเยอะ
แต่เห็นมีทีท่าว่าอยากเที่ยว แล้วอีกอย่างต้นก็เพิ่งซื้อกล้องมาใหม่
แล้วยังบ่นๆว่ายังไม่ได้ถ่ายแบบตั้งใจซะที
นอกจากไปถ่ายเล่นๆตามงานแต่งงานเพื่อนๆ กับถ่ายข้อมูลทำธีสิสเท่านั้น
ก็เลยใช้จุดนี้เป็นตัวหลอกล่อ
"เฮ้ย กล้องยังไม่ค่อยได้ใช้ไม่ใช่เหรอ"
"เออดิ ถ่ายแต่ไรไม่รู้ นี่ยังใช้ฟังก์ชั่นมันไม่ค่อยเป็นเลย"
"ก็นี่ไง ไปถ่ายรูปกัน เดี๋ยวค่อยกลับมาทำธีสิส ไปวันเดียวเอง "
"เออ..น่าสนๆ... "
"อืมม นะ เจอใครก็ฝากชวนต่อไปด้วยละกัน "
"ได้ๆ"


รายที่สอง "เอ"
แต่เอก็ยังไม่แน่นอน
"เดี๋ยวถ้าไปได้ จะรีบโทรบอกนะ"
"จ้าๆ ไม่เป็นไร ยังไงก็มี 3 คนละตอนนี้ "

จริงๆ ถ้าชัวร์ๆ ก็มีแค่นี้
แต่พอดีเจอดู๋กับปุ๋มออนไลน์ พอดีก็เลยลองถามดู
แต่ปรากฏว่าเป็นไปตามคาด ไม่ยอมไปกัน สงสัยติดแฟน อิอิ

แล้ววันเดินทางก็มาถึง
จากที่เลื่อนมารอบสองรอบ เนื่องจากต้นมันติดภารกิจบางอย่าง
จนมาพร้อมเพรียงกัน 3 คนที่หัวลำโพง เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา
แล้วเอก็มาเอานาทีสุดท้าย โดยโทรมาบอกเช้าวันเดินทางว่าจะตามมาที่หัวลำโพงก่อนรถไฟออก
รวมทั้งหมด 4 ชีวิต...

ticket

ต้นไปจองตัวให้ ส่วนพวกเราก็นั่งกินกาแฟรอกันที่ black canyon ในสถานีนั่นเอง
ด้วยความที่ไม่คุ้นชินกับการเดินทางโดยรถไฟ
พวกเราก็เลยชะล่าใจ
นึกว่าเหมือนรถทัวร์ ที่เรามักจะไปกันบ่อยกว่า หรือไม่ก็ขับรถไปกันเองถ้าใกล้ๆ
กว่าพวกเราจะเดินไปขึ้นรถ ก็เกือบได้เวลารถไฟออก (คือกะว่าคงร้อน เลยนั่งกินกาแฟรอ ชิวๆ)
แต่ที่ไหนได้ รถไฟ ไม่เหมือนรถทัวร์ โดยเฉพาะรถไฟชั้นสาม
ขึ้นไป ปรากฏว่าที่นั่งเต็ม และมีคนยืนบ้างแล้ว
พวกเราก็มองหน้ากัน
"555 สงสัยต้องยืน(ว่ะ) "
"เออ ดิ เอาไง"
"ไม่เป็นไรมั้ง แค่ ชั่วโมงเดียว"
"คนก็ไม่แน่นมากเท่าไหร่"
"..."
"เออ เนอะ ก็ได้"

แล้วพวกเราก็ยังห้าวจะไปกันต่อค่ะ
แต่ที่ไหนได้
ใกล้เวลารถออก คนไม่รู้แห่กันมาจากไหน
ยืนกันเกือบเต็มขบวน

กรี๊ดดดด(เสียงหวูดรถค่ะ)
กว่าจะได้เวลารถออก พวกเราก็เหงื่อแตก
รถก็ค่อยๆวิ่ง ฉึกกะฉักๆ ไปเรื่อยๆ
พวกเราพยามหาเรื่องคุยกันให้ลืมร้อนและความแออัดของขบวนรถ
ที่เต็มไปด้วยผู้โดยสารที่มุ่งหน้าสู่จุดหมายปลายทางบนรางรถไฟเดียวกัน แต่ต่างสถานี

แม่ค้าเริ่มกระบวนการขายด้วยการหิ้วตระกร้าไซส์ใหญ่พอๆกับตัว ออกเดินตามทางเดินบนขบวนรถพร้อมส่งเสียงเจื้อยแจ้ว
โดยไม่สนใจสายตาของผู้โดยสารบางคนที่แสดงความหงุดหงิดออกมาบ้างเล็กน้อย
เนื่องจากที่มันแคบ และแม่ค้าแต่ละคนก็ อืมม..ร่างใหญ่แถมตระกร้าก็ใหญ่ด้วยค่ะ(^___^)
แต่พวกเราไม่สนใจ ก็คุยๆกันไปซับเหงื่อกันไป จนกระทั่งใกล้ถึงสถานีนึงแถวบ้านต้น
ต้นก็พูดขึ้นมาว่า
"เออ นี่ชั้นจอดรถไว้แถวนี้เองแหละ เมื่อเช้า"
"จริงๆคราวหน้าชั้นว่าขับรถไปน่าจะเร็วกว่านะ"
"แล้วทุกคนก็มองหน้ากัน พร้อมๆกับรถเข้าจอดที่สถานีที่ว่า
เหมือนจะถามว่าเอาไงดี เปลี่ยนใจขับรถไปมะ เอามะ
....ทุกคนทำท่าจะขยับตัวลงจากรถ....
แล้วหน่อย ผู้ต้นคิดที่จะไปเที่ยวก็เอ่ยขึ้นมาว่า
"อย่าเลย ไว้คราวหน้าเหอะ ไหนๆก็ออกมาแล้ว เหงื่อออกมาขนาดนี้แล้ว ทนอีกหน่อยก็ได้"
แล้วทุกคนก็ชักขากลับ พร้อมกับคิดได้ว่า เออ หัดลำบากซะมั่ง
"อืมม..ก็ได้ "

ฉึกกะฉักๆๆๆ

มาจนถึงแถวไหนไม่รู้ รู้แต่ว่าเลยลาดกระบังมาหน่อย พวกเราก็เริ่มได้นั่ง
ยกเว้นหนึ่งหนุ่มของพวกเราที่ยังคงยืนอยู่
แล้วเราก็เห็นพี่ผู้ชายที่นั่งด้านนอกหันไปคุยอะไรกับคนที่ยืนอยู่ข้างหลังพวกเราแล้วก็ลุกขึ้นยืน
แต่ยังไม่ทันที่พวกเราจะตั้งตัวทัน
ร่างของน้องผู้หญิงคนนึงก็ทรุดฮวบลงมาตรงหน้า จนเราเกือบจะคว้าแขนไว้ไม่ทัน
เป็นลมค่ะ น้องเค้าเป็นลม..ก็เค้ายืนมานานและอากาศก็ร้อน คนก็แน่น
พวกเรารีบพยุงให้น้องมานั่งข้างๆ
น้องเค้าหน้าซีดเผือด ตัวอ่อนยวบจนต้องดึงให้เค้ามาซบไหล่
หน่อยนึกได้ว่ามียาดมอยู่ในกระเป๋า รีบหยิบออกมาให้เค้าดม
ท่ามกลางสายตาสนใจและตกใจของคนรอบข้าง
ซักพักน้องเค้าก็เริ่มรู้สึกตัว และหันมาขอบคุณ
เฮ้อ...
โชคดีที่ไม่กี่สถานีก็ถึงปลายทางแล้ว
นี่แหละค่ะ transportation เมืองไทย
แต่ก็อย่างว่าค่ะ รถไฟเป็นพาหนะที่ราคาถูกที่สุดแล้วตอนนี้ และเป็นพาหนะสำคัญของชาวบ้านที่เค้ามีรายได้ต่ำ
ดูอย่างค่ารถที่พวกเราไปฉะเชิงเทรากันสิคะ
แค่ 13 บาทเอง
แต่ยังไงก็อยากให้ปรับปรุงให้สภาพดีกว่านี้อีกหน่อยจัง

พอมาถึงปลายทาง พวกเราก็ลงมาเหมาตุ๊กตุ๊ก ต่อไปที่ตลาดบ้านใหม่กันเลย
เพื่อความสะดวก รวดเร็ว ที่สำคัญมันหิวค่ะ
พอไปถึงตลาดบ้านใหม่ พวกเราก็เสร็จร้านก๋วยเตี๋ยวเรือ ที่ดักอยู่ตรงต้นทางของตลาดเป็นที่แรก
กินกันไปคนละ 2 ชาม พร้อมด้วยลูกชิ้นหมูอีก 2 ถ้วย น้ำเปล่าไม่ดื่มค่ะ ดื่มโค้ก เนื่องจากกระหายกันมาก
พออิ่มหนำและหายเหนื่อยพอประมาณ พวกเราก็ออกไปเดินเที่ยวตลาดและลุยถ่ายรูปกันต่อ
ก็ถือเป็นชุมชนที่สะอาดสะอ้าน และน่าอยู่ทีเดียว ถ้าเทียบกับชุมชนและตลาดอื่นๆ
อาจจะเป็นเพราะนี่คือจุดท่องเที่ยวที่มีชื่อจุดหนึ่ง ทำให้ชาวบ้านที่อยู่แถวนี้ช่วยกันพัฒนาให้มันดูดีอยู่เสมอ
แต่ก็มีร้านค้าบางร้านเหมือนกันที่พอจะดูออกว่าเป็นร้านค้าที่พยามทำให้สภาพร้านดูเก่าย้อนยุค
ทั้งที่จริงๆแล้วเป็นร้านใหม่ แต่ก็พอจะเข้ากับสถานที่โดยรวม ก็ให้อภัยได้ค่ะ(^___^)

CSS_tab
อยากดูเต็มๆ กด "ตรงนี้"เลยค๊า

พวกเราอัดถ่ายรูปกันเต็มที่ เพราะความแปลกตาของสถานที่ที่ดูสวยคลาสสิค
แล้วเดินเลยตลาดไปถึงวัดจีนที่อยู่ในระแวกนั้น
เข้าไปถึงวัดจีนพวกเราก็ถ่ายๆๆๆ
ไหว้พระ ชมรอบโบสถ์ แล้วก็นั่งพักกันอีกนิดหน่อย
ก่อนหน้านั้น กล้องของฉันดันมีปัญหา
หน้าจอมันไม่สามารถแสดงภาพได้ กลายเป็นสีปื้นๆ เพี้ยนๆ
เซ็งมากค่ะ เป็นตั้งแต่ก่อนเดินมาถึงวัด
ทำใจเลยว่า คงอดถ่ายแล้วหล่ะ เพราะลองปิด เปิดใหม่ก็ยังไม่หาย (_-')
พอเข้ามาไหว้พระ ก็คิดว่าขอให้ถ่ายได้ด้วยเถอะ เพราะมีมุมสวยๆน่าถ่ายเยอะมาก
ซักพัก ปรากฏว่าอาการกล้องหายเป็นปกติ ถ่ายได้เหมือนเดิม (o_O)
ไม่รู้จะเรียกว่าศักดิ์สิทธิ์หรือถือเป็นโชคดีค่ะ (^_^)

จากวัดจีน แวะดื่มน้ำเก็กฮวย
พวกเราก็เดินกลับมาที่ตลาดบ้านใหม่กันอีกรอบ
และไปเสร็จร้านป้าหนูเป็นร้านที่สอง
ร้านป้าหนูเป็นร้านอาหารอยู่ริมแม่น้ำค่ะ
ท่าทางมีชื่อเหมือนกัน เพราะมีรูปดารามาแวะชิมติดอยู่ที่ผนังร้านหลายรูป
แต่พวกเราก็ไม่ได้สั่งอะไรมามากนัก แค่เหนื่อยและร้อนเท่านั้น เลยมานั่งพัก
แต่ครั้นจะสั่งน้ำอย่างเดียวก็ไม่ใช่พวกเราซิคะ เพราะพวกเราได้ชื่อว่าสรรหาอยู่แล้ว เรื่องกิน
ก็เลยสั่งกุ้งกระเบื้องกรอบ กับหมูทอดใบมะกรูด กับส้มตำมากินกันเล่นๆ(?)ไปพลางๆ 555
จริงๆมีอาหารน่าลองอีกเยอะ แต่พวกเรายังอิ่มก๊วยเตี๋ยวเรือกันอยู่ ไม่งั้นนะ...

นั่งพักไปถ่ายรูปเล่นไปซักพัก
ก็ได้เวลาต้องลาตลาดบ้านใหม่แล้ว
เพราะพรุ่งนี้ทุกคนต่างก็มีภาระการงานต้องไปทำกัน
ก็เลยไม่อยากให้มันเย็นมาก
ขากลับเราตกลงกันแล้วค่ะว่า เราจะกลับรถทัวร์
555 เข็ดไปชั่วคราวค่ะรถไฟ
ขอกลับสบายๆ แอร์เย็นๆแล้วกัน
ขึ้นรถทัวร์ได้ พวกเราก็สลบเหมือดจนเกือบๆจะถึงเอกมัยนั่นแหละค่ะ ถึงได้ตื่นกัน

ยังค่ะ..ยัง ทริปของเรายังไม่จบแค่นี้หรอก
พอถึงเอกมัย พวกเราดันเกิดหิวขึ้นมาอีก 5555
ทั้งๆที่ข้ามสะพานลอยเตรียมแยกย้ายกันกลับ
สายตาดันไปเห็นร้านบ้านใร่กาแฟ
ใครคนนึงก็เอ่ยขึ้น
"เฮ้ยหิวง่ะ"
"หาข้าวกินรองท้องก่อนกลับมั้ย"
...(มองหน้ากัน)...
5555555555

แล้วพวกเราก็เสร็จร้านบ้านใร่กาแฟกันอีกรอบ(^___^)

Comments

Anonymous said…
โอ้ย เด็กๆรถไฟแค่ 1 ชม


วัยรุ่นๆ เคยไปหนองคายกับเพื่อน ก็ขึ้นนั่ง ขอโทษ เบาะมันควรเป็นแบบนุ่มๆใช่มะ นี่ครับแม่งเป็นไมแข็งๆ้ ตั้งฉากอีกต่างหาก.........หลับโคตรทรมาน

เท่านั้นยังไม่พอ ผ่านไป 3 ชมมั้ง

พวกมาจากไหนไม่รู็้ เอียดรถตู้เลยเพราะช่วงเทศกาล ฮ่วยแล้ว เค๊าพูดฝรั่งเศสกันแบบ ประหนึ่งไม่ได้คุยกันเป็นชาติ

ฮ่วย บั๊กห่าซำบายดีบ่ อะไรนั่นน่ะ พูดเร็วมาก ฟังออกแต่คำ พื้นๆ

ร้ายกว่า นี่ครับพี่คนหนึ่ง มีวิทยุ แบบโคตรใหญ่แบกขึ้นบ่า เปิดแม่งหมดเสียง

พรศักดิ์ ส่องแสง--- เต้ยสาวจันทร์ กระหื่มมาก


เฮ้ยยแต่ยังๆๆ ยังมีร้ายกว่าอีก ที่พื้นครับ ที่พื้นท่านผู้ชม

มันปูหนังสือพิมพ์ มี ครก มีสาก แม่งเล่นส้มตำสดๆ เลย

เฮ้ยเรื่องจริง ตอนนั้นคนแปลกอ่ะ คือ พี่และเพื่อนเพราะ มองแทบรอบตัวแบบไก่ตาแตกเลย งงรับประทาน

ตอนนั้นนั่งบ่น...ไอ้แสด รู้งี้เพิ่มเงินจ่ายชั้นนอนดีกว่า


เสียน้อยเสียยาก เสียมากเสียง่าย
จุ๊บ said…
5555 สุดยอดมากๆค่ะ

ยังไม่เคยเจอทริปที่วิบากขนาดนี้มาก่อนเลย โชคดีจัง
v74 said…
ดีมากครับ น่าสนุกมาก
พี่ไม่ได้มีโอกาสเที่ยว + นั่งรถไฟ กับเพื่อนๆตั้งแต่เรียนจบโน่น

นานๆไปทีก็ดีไม่หยอก จะลำบากก็แต่การหาเวลาว่างที่พอเหมาะพอดีกันกับเพื่อนๆมากกว่า

รูปดูไม่ได้ครับ เป็น private (อีกแล้วครับท่าน)
จุ๊บ said…
รูปต้องคลิ๊กที่คำว่า"ตรงนี้"ใต้รูปน่ะค่ะ=P

มันจะlinkไปอีกที่นึงที่เก็บรูปไว้ อิอิ
สงสัยตัวจะเล็กไป เดี๋ยวไปแก้ให้ใหญ่ขึ้นดีว่า
ลองดูนะคะ แต่พอดีรีบ+ด้อยความสามารถรูปอาจจะไม่ค่อยชัดเท่าไหร่
v74 said…
รูปดูน่าไปเที่ยวดีครับ ยิ่งไปกับเพื่อนๆแนวเดียวกันก็ยิ่งสนุก

น่าจะหายเบื่อแล้ว
จุ๊บ said…
สนุกค่ะ แต่มันน้อยไปหน่อย วันเดียวเอง