เและแล้ว...ก็ผ่านวันแรกมาได้โดยสวัสดิภาพ (ถึงแม้จะมีตบะแตกมั่งก็เหอะ -_-' )
เหมือนจะไวเนอะ วันๆนึง แป๊ปเดียว แต่รู้มั้ยว่า...
ง๊าาาาา
เมื่อคืนมันทรมานมากเลยน๊าาาา T-T
เริ่มจะเข้าใจคนเลิกบุหรี่ว่าเวลาอดเนี่ย มันโหยแค่ไหน
..................................
เมื่อวานหลังจากมื้อเย็นราวๆ 5 โมงเย็นผ่านไปแล้วซักระยะ
มันเหมือนท้องมันร้องเรียกหาอะไรที่มันเคยได้ย่อยอีกครั้ง..เหมือนที่กินไปตอนเย็นมันไม่อยู่ท้องเอาซะเลย
พยามข่มใจ ไม่ได้ๆๆ ไม่กินแล้ว พอๆๆๆ
เอาน้ำมาลูบท้องก็แล้ว จิบนม ดื่มน้ำสำรอง (น้ำสำรองมีเนื้อเป็นวุ้นๆ คล้ายรังนกแต่สีน้ำตาลออกดำเหมือนเฉาก๊วย) เข้าไปเพิ่มพื้นที่ในกระเพาะอาหารก็แล้ว..มันก็ยังไม่หยุดเรียกร้อง T-T
ต้องพยามทำนู่นทำนี่ไปให้ลืมๆ
พอดีต้องทำขนมตามออเดอร์ ก็เลยพยามทำๆ ให้ลืมความโหยหิว (จริงๆ มันคงเป็นความอยากตามความเคยชินมากกว่าความหิวอ่ะนะ)
ซักพัก ก็รู้สึกหวิวๆ มึนๆ ซะงั้น
คนรอบข้างบอกว่า มันเป็นอาการของ..อุปทาน..เง้ออ -_-'
เอ้า อุปทานก็อุปทาน แต่ขอนั่งพักหน่อยละกัน ก่อนลุกไปทำขนมต่อให้วุ่นๆ เข้าไว้ พยามไม่นึกถึงมัน
คราวนี้ได้ผลแฮะ พอผ่านช่วงโหยสุดๆ ไปได้ มันก็ลืมไปเลย ท้องที่เคยร้องโครกๆ (ทั้งที่กินแล้ว) ก็หยุดร้อง..เข้าโหมดง่วง เตรียมนอน
หลังจากอบขนมเสร็จซักพักก็รีบขึ้นนอนเลย..กลัว..กลัวจะหิวขึ้นมาอีก
...............................
เช้านี้ตื่นแต่เช้าเพราะต้องขับรถไปส่งแม่ตั้งแต่ตี 5
ทุกทีพอกลับเข้าบ้านจะแวะตลาดซื้อโจ๊กหมูใส่ไข่ เจ้าประจำมากินกับปาท่องโก๋ เจ้านี้ให้หมูสับเยอะมากๆ ตักไม่ต้องนับชิ้นกันเลย หมูก็หมักอร่อย
แต่วันนี้..จำใจต้องเดินเลี่ยงโจ๊กหมูไป แบบตาลอยๆ มองหาอะไรก็ได้ที่มันเป็นผัก..
ร้านนู้นก็ไก่ ร้านนี้ก็หมู ไก่ หมู เนื้อ ไก่ๆๆ หมูๆๆๆ เนื้อๆๆ
เง้ออ...มีแต่เนื้อสัตว์ หายากจริงเหวยยย
ไปยืนมึนๆอยู่หน้าร้านข้าวแกงอยู่พักนึง ก็ได้แกงเทโพผักบุ้งหมูสามชั้นมา 1 ถุง กะ ไข่พะโล้ 1 ถุง
โอเช..พอละ ได้ละมื้อเช้าของเรา =)
ยัง..มันยังไม่หมดแค่นี้นะ
วันนี้มีนัดออกไปข้างนอก ยังไม่รู้เลยว่าออกไป จะไปหาอะไรกิน
แถมมันยังมีร้านอาหารที่ยั่วกิเลศอยู่เยอะแยะมากมายอีกต่างหาก
เฮ้อ..จะรอดมั้ยเนี่ย ตู
เดี๋ยวเย็นมาอัพเดทอีกที =d
...................................
มื้อกลางวัน เป็นจริงดังคาด ไปข้างนอกหาอาหารที่ไม่มีเนื้อสัตว์ยากจริงๆ
เหมือนจะไวเนอะ วันๆนึง แป๊ปเดียว แต่รู้มั้ยว่า...
ง๊าาาาา
เมื่อคืนมันทรมานมากเลยน๊าาาา T-T
เริ่มจะเข้าใจคนเลิกบุหรี่ว่าเวลาอดเนี่ย มันโหยแค่ไหน
..................................
เมื่อวานหลังจากมื้อเย็นราวๆ 5 โมงเย็นผ่านไปแล้วซักระยะ
มันเหมือนท้องมันร้องเรียกหาอะไรที่มันเคยได้ย่อยอีกครั้ง..เหมือนที่กินไปตอนเย็นมันไม่อยู่ท้องเอาซะเลย
พยามข่มใจ ไม่ได้ๆๆ ไม่กินแล้ว พอๆๆๆ
เอาน้ำมาลูบท้องก็แล้ว จิบนม ดื่มน้ำสำรอง (น้ำสำรองมีเนื้อเป็นวุ้นๆ คล้ายรังนกแต่สีน้ำตาลออกดำเหมือนเฉาก๊วย) เข้าไปเพิ่มพื้นที่ในกระเพาะอาหารก็แล้ว..มันก็ยังไม่หยุดเรียกร้อง T-T
ต้องพยามทำนู่นทำนี่ไปให้ลืมๆ
พอดีต้องทำขนมตามออเดอร์ ก็เลยพยามทำๆ ให้ลืมความโหยหิว (จริงๆ มันคงเป็นความอยากตามความเคยชินมากกว่าความหิวอ่ะนะ)
ซักพัก ก็รู้สึกหวิวๆ มึนๆ ซะงั้น
คนรอบข้างบอกว่า มันเป็นอาการของ..อุปทาน..เง้ออ -_-'
เอ้า อุปทานก็อุปทาน แต่ขอนั่งพักหน่อยละกัน ก่อนลุกไปทำขนมต่อให้วุ่นๆ เข้าไว้ พยามไม่นึกถึงมัน
คราวนี้ได้ผลแฮะ พอผ่านช่วงโหยสุดๆ ไปได้ มันก็ลืมไปเลย ท้องที่เคยร้องโครกๆ (ทั้งที่กินแล้ว) ก็หยุดร้อง..เข้าโหมดง่วง เตรียมนอน
หลังจากอบขนมเสร็จซักพักก็รีบขึ้นนอนเลย..กลัว..กลัวจะหิวขึ้นมาอีก
...............................
เช้านี้ตื่นแต่เช้าเพราะต้องขับรถไปส่งแม่ตั้งแต่ตี 5
ทุกทีพอกลับเข้าบ้านจะแวะตลาดซื้อโจ๊กหมูใส่ไข่ เจ้าประจำมากินกับปาท่องโก๋ เจ้านี้ให้หมูสับเยอะมากๆ ตักไม่ต้องนับชิ้นกันเลย หมูก็หมักอร่อย
แต่วันนี้..จำใจต้องเดินเลี่ยงโจ๊กหมูไป แบบตาลอยๆ มองหาอะไรก็ได้ที่มันเป็นผัก..
ร้านนู้นก็ไก่ ร้านนี้ก็หมู ไก่ หมู เนื้อ ไก่ๆๆ หมูๆๆๆ เนื้อๆๆ
เง้ออ...มีแต่เนื้อสัตว์ หายากจริงเหวยยย
ไปยืนมึนๆอยู่หน้าร้านข้าวแกงอยู่พักนึง ก็ได้แกงเทโพผักบุ้งหมูสามชั้นมา 1 ถุง กะ ไข่พะโล้ 1 ถุง
โอเช..พอละ ได้ละมื้อเช้าของเรา =)
ยัง..มันยังไม่หมดแค่นี้นะ
วันนี้มีนัดออกไปข้างนอก ยังไม่รู้เลยว่าออกไป จะไปหาอะไรกิน
แถมมันยังมีร้านอาหารที่ยั่วกิเลศอยู่เยอะแยะมากมายอีกต่างหาก
เฮ้อ..จะรอดมั้ยเนี่ย ตู
เดี๋ยวเย็นมาอัพเดทอีกที =d
...................................
มื้อกลางวัน เป็นจริงดังคาด ไปข้างนอกหาอาหารที่ไม่มีเนื้อสัตว์ยากจริงๆ
สุดท้ายก็เลือกกินกุ้งเทมปุระ...
มื้อเย็น ดีขึ้นมาหน่อย ขากลับบ้านผ่านตลาด เลยแวะซื้อยำวุ้นเส้น ใส่เห็ดหูหนูดำและขาว รอดไปอีกมื้อ =d
Comments